ชาวโสมขาวร่วมลงชื่อคัดค้านการนำเข้าตุ๊กตายางจากญี่ปุ่น

ภาพประกอบตุ๊กตายาง

เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าบริษัทนำเข้าตุ๊กตายางญี่ปุ่นของเกาหลีใต้แห่งหนึ่งได้มีเรื่องฟ้องร้องกับกรมศุลกากร อันเนื่องมาจากศุลกากรได้ทำการยึดตุ๊กตายางของบริษัทที่นำเข้าจากญี่ปุ่นเพื่อมาขายยังประเทศแห่งนี้ และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เองศาลสูงของเกาหลีใต้ก็ได้มีคำตัดสินออกมาให้ฝ่ายบริษัทนำเข้าตุ๊กตายางเป็นผู้ชนะ โดยให้ความเห็นว่า ตุ๊กตายางนั้นเปรียบเสมือนสมบัติส่วนตัวชิ้นหนึ่ง ซึ่งไม่เข้าข่ายลามกอนาจารเนื่องจากเป็นการนำมาใช้เป็นการส่วนตัว ไม่ได้กระทำต่อหน้าธารกำนัล เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิที่จะใช้ทรัพย์สินส่วนตัวที่หามาได้ในทางใดก็ได้ ถ้าไม่ได้เป็นการไปละเมิดหรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญใจ ซึ่งทางฝ่ายกงศุลกากรของเกาหลีใต้นั้นไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินดังกล่าวและได้ทำการอุทรณ์ไปยังศาสฎีกา ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เองศาลฎีกาก็ได้มีคำตัดสินออกมา โดยยืนคำสังตามศาลสูงว่า ตุ๊กตายางไม่ถือว่าเป็นสิ่งลามกอนาจารดังนั้นจึงไม่ผิดกฏหมายที่จะทำการครอบครองหรือค้าขาย

หลังคำตัดสินค้าของทั้งสองศาลออกมาทางฝ่ายศุลกากรก็บอกว่าต่อไปก็คงต้องอนุญาติให้ผู้คนสามารถนำเข้าตุ๊กตายางจากญี่ปุ่นได้ แต่สำหรับคนที่จะนำตุ๊กตายางจากจีนเข้ามายังอาจจะติดขัดปัญหาอยู่เนื่องจากตอนนี้กำลังพิจารณาข้อกฏหมายว่าจะอนุญาติหรือไม่ (เนื้อข่าวไม่ได้บอกรายละเอียดว่าทำไมถึงยังไม่อนุญาติให้นำเข้าตุ๊กตายางจากประเทศจีนได้) อย่างไรก็ตามพบว่าหลังคำตัดสินออกมาให้ตุ๊กตายางเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ก็พบว่าได้มีผู้คนมากมายในประเทศนี้ที่กลับจากญี่ปุ่นได้พากันแห่นำเอาตุ๊กตายางกลับเข้ามาด้วย ซึ่งปกติแล้วตุ๊กตายางที่ขายในเกาหลีใต้จะมีราคาอยู่ระหว่างตั้งแต่ 1ล้านวอน ไปจนถึง 20 ล้านวอน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติต่างๆ

นอกจากนี้แล้วหลังคำตัดสินนี้ ก็ได้เกิดมีกระแสตีกลับบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินและได้ทำการรณรงค์คัดค้านไม่ให้มีการนำเข้าตุ๊กตายาง ซึ่งตอนนี้พบว่ามีผู้ร่วมลงชื่อคัดค้านแล้วกว่าสองแสนราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่เป็นผู้ใหญ่กลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ หรือกลุ่มคนหัวโบราณ โดยหนึ่งในกลุ่มคนที่ร่วมคัดค้านการนำเข้าตุ๊กตายางนี้ ได้ให้ความเห็นว่า “ตุ๊กตายางนั้นเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมและขัดกับจารีตวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนั้นยังอาจมีส่วนกระตุ้นทางเพศก็ให้เกิดอาชญากรรมขึ้นมาได้” นอกจากนี้ยังเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น ดารานักร้อง เป็นต้น หลังจากเริ่มมีข่าวลือว่า บริษัทที่นำเข้าตุ๊กตายางแห่งหนึ่งนั้นได้มีการดัดแปลงหน้าตาของตุ๊กตายางให้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับไอดอลคนดังต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า อย่างไรก็ดีบริษัทดังกล่าวได้ทำการปฏิเสธว่าไม่มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น